- + ประกาศขายบ้าน
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
GBP - £
- ซื้อ
- เช่า
- มีให้เช่าในภูเก็ต
- ตลาดอสังหาฯ ในภูเก็ต
- ยูนิตปล่อยเช่าล่าสุด
- ลงประกาศให้เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
โครงการ เดอะ เบส ไรส์ เป็นโครงการประเภท คอนโด / อพาร์ทเม้นท์ ตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่ วิชิต, ภูเก็ต ซึ่งมีแผนการก่อสร้างให้แล้วเสร็จใน ส.ค. 2568 โดยมีทั้งหมด 8 ชั้น รวมทั้งสิ้น 63 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการคุณภาพโดย แสนสิริ และเป็นบริษัทเดียวกันที่ได้พัฒนาโครงการ Via ARI (เวีย อารีย์), SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) และ CANVAS Cherngtalay (แคนวาส เชิงทะเล). อีกด้วย
เรื่องราวของคุณที่ไม่เหมือนใคร
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยแสงแดดที่สดใส ที่ซึ่งทุกรุ่งอรุณเป็นแรงบันดาลใจให้กับชีวิต...
The Base Rise ตั้งอยู่ในคอนโดมิเนียมรีสอร์ทใจกลางภูเก็ตที่ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับทุกสิ่งได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟใจกลางเมืองและจุดเล่นเซิร์ฟสุดโปรด ไปจนถึงการอาบแดดริมสระและการออกกำลังกายเบาๆ ที่บ้าน ค้นพบความแปลกใหม่ของทุกวันและอิสระในการสร้างเรื่องราวใหม่ๆ เพื่อบอกเล่า
แนวคิดการออกแบบ
ได้รับแรงบันดาลใจจากความมหัศจรรย์ของแสงแดดยามเช้าที่สะท้อนลงบนท้องทะเลอันระยิบระยับ แนวคิดการออกแบบที่ไม่เหมือนใครนี้ถูกรวบรวมไว้ทั้งในส่วนสถาปัตยกรรมภายในและภายนอก
เฉดสีไล่เฉดอันน่าทึ่งของอาคารนั้นยกย่องให้กับพระอาทิตย์ขึ้นอันงดงามบนตัวอาคาร ในขณะที่สีและการออกแบบของสระว่ายน้ำได้รับแรงบันดาลใจจากพระอาทิตย์ตกอันโดดเด่นของภูเก็ต พร้อมด้วยพื้นที่ส่วนกลางสไตล์รีสอร์ท สัมผัสประสบการณ์ที่พักอาศัยที่มอบความผ่อนคลายสูงสุดให้กับคุณทุกวัน
ทำเลที่ตั้งที่สมบูรณ์แบบ
ที่พร้อมตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาล
ผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ
สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเงียบสงบของเกาะส่วนตัว โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยลวดลายแสงแดดที่สาดส่องไปตามพื้น ท่ามกลางสวนสวยที่เขียวขจี คุณสามารถพักผ่อน อาบแดด อ่านหนังสือ หรืออัปเดตโพสต์บนโซเชียลมีเดียได้ตามอัธยาศัย
ลองเช็คดูก่อนว่าบ้านของคุณนั้นควรมีราคาอยู๋ที่ประมาณเท่าไหร่ ในทำเลนี้?
CONSTRUCTING LIFE, NOT JUST BUILDINGS
With over 33 years of experience and hundreds of projects across Thailand, including two hotels and a residential project in Kensington, London, Sansiri is widely regarded as Thailand’s leading developer of quality houses, townhouses and condominiums.
Constructing meticulously designed, well-made homes, we strive to continuously improve the quality of life of our residents.
Sansiri is also Thailand’s only fully integrated property developer, providing comprehensive services that go far beyond those of traditional developers.
Our Plus Property Agency, Quintessentially Concierge and Rental for the Holidays Lettings allow us to fully attend to the needs of our customers from start to finish.
Our journey continues…
From Sansiri’s earliest days, more than three decades ago, we have pursued projects and partnerships that have the potential to change the way we live in the world – but perhaps none has been as momentous as the partnerships we have entered with our Everyday Visionaries. The modern world, and its young, modern citizens, are changing rapidly. Many of the highest-growing companies are using technology to innovate their sectors. Sansiri, as always, is at the vanguard. We’re not waiting for the future. We’re making it.
The people and brands that we’ve partnered with truly are visionaries. Each of them has the potential to challenge the status quo and to help Sansiri grow. Like Sansiri, they believe in the transformative power of good design. They are built upon a commitment to improve quality of life. And they have a singular ambition of improving everyday lives and even whole sectors. These are businesses led by world-leading talent, strategically chosen for their common ambition and complementary purposes. We have cultivated relationships with these businesses, and their founders,
over many years, and these new partnerships are borne out of an affinity and admiration for each other’s endeavours. Individually, each business is known for its singular take on its respective sector, visionary products and passion for innovation. But collectively, with Sansiri, they represent synergistic possibilities for creating completely new products, connecting global audiences and creating a collaborative vision to evolve the way we live. It’s a thrilling new chapter for Sansiri, and one we are looking forward to writing together with our new partners.
We’re living in an era where technology and the internet are shaping the way we live, but it’s also true that we are directing that progress in ways that benefit our lives. Sansiri’s exciting new investments and collaborations answer the needs of an increasingly mobile and global audience, not just in terms of creating the buildings people want, but improving the lives of those who reside in them
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ เดอะ เบส ไรส์ และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
สำหรับคอนโดมือหนึ่ง
- ก่อนการยื่นกู้ ผู้ซื้อจะต้องผ่อนชำระเป็นเงินดาวน์กับโครงการเป็นระยะเวลาหนึ่งตามตกลง เพราะฉะนั้นผู้ซื้อควรต้องมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งสำหรับผ่อนดาวน์ให้ครบสัญญา
- เมื่อยื่นกู้ ทางธนาคารมักจะอนุมัติให้กู้ได้เต็มจำนวน 100% ของยอดที่เหลือหลังผ่อนดาวน์ เพราะธนาคารจะประเมินว่าท่านมีศักยภาพเพียงพอในการผ่อนชำระ
สำหรับคอนโดมือสอง
- ไม่มีระบบผ่อนดาวน์กับทางผู้ขาย ก่อนการยื่นกู้
- ธนาคารมักจะไม่อนุมัติเต็มจำนวนให้ โดยทั่วไปจะอนุมัติที่ 80 - 90% ของราคาประเมิน หรือ ราคาซื้อขาย (ธนาคารมักจะเลือกราคาที่ต่ำกว่า)
- ผู้ซื้อควรต้องมีเงินสำรอง เพื่อรองรับกับยอดกู้ที่ขาดไป 10-20% เพื่อเป็นเงินจ่ายตรงให้กับผู้ขาย
- ผู้ซื้อควรมีเงินสำรองอีกก้อน เพื่อใช้สำหรับการซ่อมบำรุง
ทั้งนี้ ผู้ซื้อสามารถเลือกเปรียบเทียบการปล่อยกู้ของแต่ละธนาคารได้ก่อนการยื่นกู้ ซึ่งรายละเอียดอาจจะแตกต่างจากที่กล่าวมาข้างต้น ขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยและนโยบายของแต่ละธนาคาร
การซื้อคอนโดนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง หรือกำลังก่อสร้างอยู่ รวมไปถึงหากอยากมั่นใจริงๆ คือซื้อในช่วงที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็สามารถทำได้ แต่อาจจะไม่ได้ห้องที่ต้องการหลงเหลืออยู่แล้ว เพราะโดยส่วนใหญ่ โครงการคอนโดมักจะเริ่มเปิดขายตั้งแต่ช่วงยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างเลย โดยใช้กลยุทธทางการตลาดต่างๆ เพื่อดึงผู้ซื้อเข้ามาเพื่อนำเงินจองทำสัญญาและเงินดาวน์ต่างๆ เข้ามาเพิ่มเป็นเงินทุนในการดำเนินการก่อสร้างของโครงการ ซึ่งนี่ก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของผู้ซื้อ ดังนี้
1. ได้รับโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากกว่าปรกติ เช่น ส่วนลดพิเศษถ้าซื้อช่วง Pre-Sale, ได้รับเฟอร์นิเจอร์ในคอนโดหลายชิ้นฟรี, ฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ, หรือส่วนลดค่าส่วนกลางตามระยะที่กำหนด ฯลฯ
2. สามารถเลือกห้องที่ต้องการได้อย่างเสรี ทั้งแบบห้อง และ ทำเลของห้องเพราะเหลือห้องให้เลือกมากมาย
3. ธนาคารสามารถปล่อยให้กู้ได้เต็มจำนวนของค่าห้อง
4. หากท่านเป็นนักลงทุน การซื้อห้องแบบ Pre-Sale ก็จะช่วยให้ท่านสามารถเพิ่มกำไรในการ ปล่อยเช่า หรือ ขายต่อ ได้ดีมากอีกด้วย
แต่ในข้อดีบางอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ท่านก็ควรพิจารณาถึงข้อเสียไว้ด้วย ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ดังนี้
1. การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเข้าอยู่แบบเร่งด่วน หรือไม่เผื่อระยะเวลาให้กับการก่อสร้าง
2. ไม่ผ่านการขออนุมัติ EIA (หลายโครงการเปิดขายไปแล้ว ก่อสร้างไปแล้ว แต่ยื่นขอไม่ผ่าน)
3. หากเกิดข้อพิพาทใดๆ ในระหว่างการก่อสร้าง หรือ หลังจากสร้างเสร็จ ทำให้เสียเวลาในการฟ้องร้องและเสียสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก
4. มีโอกาสที่วิวต่างๆ หรือบรรยากาศการเข้าพัก ที่เคยคิดไว้ว่าเราจะได้รับเป็นอย่างดีเมื่อตอนก่อนก่อสร้าง จะถูกบดบังในอนาคตเพราะโครงการใหม่ ๆ อาจจะก่อสร้างในภายหลังได้
โครงการ เดอะ เบส ไรส์ อยู่ห่างจาก 7-eleven เพียงแค่ 190 เมตรเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาเดินไปเพียง 3 นาที
และยังมีร้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับโครงการ เดอะ เบส ไรส์ ซึ่ง 3 ร้านที่ใกล้ที่สุด คือ
- อาณา อเวนิว อยู่ห่างไปเพียง 200 เมตร (เดินแค่ประมาณ 3 นาที)
- Drop off : Central Phuket Floresta , G floor อยู่ห่างแค่ 570 เมตรเท่านั้น (ใช้เวลาเดินประมาณ 8 นาที)
- Central Phuket Floresta อยู่ห่างออกไปประมาณ 930 เมตร (สามารถเดินไปประมาณ 13 นาที)
ร้านอาหารที่ใกล้กับโครงการ เดอะ เบส ไรส์ นั้นมีให้เลือกมากมาย เราขอเสนอร้านที่ใกล้ที่สุด ดังนี้
- Veggie Brunch นั้นอยู่ใกล้กับโครงการเพียง 50 เมตร (ซึ่งคุณสามารถเดินไปที่ร้านได้ ในเวลาประมาณ 1 นาที เท่านั้น)
- Freshy Salad อยู่ห่างจากโครงการเพียง 180 เมตร (คุณแค่เดินไปประมาณ 3 นาที ก็ถึงแล้ว)
- Chicsy Drip นั้นอยู่ห่างไปประมาณ 200 เมตร (เดินไปที่ร้านใช้เวลาประมาณ 3 นาที)
Artemes Health & Beauty Destination Phuket เป็นสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งห่างจากโครงการไป 1.8 กม. (ซึ่งหากขับรถไป ก็จะใช้เวลาประมาณ 6 นาที)
หากจะมองหาสถานศึกษาหรือแหล่งเรียนรู้ใกล้ๆกับโครงการ นี่คือสถานที่ที่เราแนะนำ
- Raffles Thailand Excellence Language School อยู่ห่างไปเพียง 1.7 กม. (ใช้เวลาขับรถประมาณ 5 นาที)
- Wichitsongkram School อยู่ห่างแค่ 820 เมตรเท่านั้น (หากจะเดินไป ก็ใช้เวลาประมาณ 12 นาที)
- HeadStart International School, Phuket (City Campus) อยู่ห่างไปประมาณ 750 เมตรเท่านั้นเอง (สามารถเดินเพียง 10 นาที ก็ถึง)
Phuket International Airport นั้นอยู่ห่างจากโครงการ 33.6 กม. ซึ่งหากขับรถไปจะใช้เวลาโดยประมาณ 46 นาที หรือหากจะเดินทางด้วยแท๊กซี่ ก็ขึ้นอยู่กับการจราจร ณ ช่วงเวลานั้นๆ