- + ประกาศขายบ้าน
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
GBP - £
- ซื้อ
- เช่า
- มีให้เช่าในกรุงเทพมหานคร
- ตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพมหานคร
- ยูนิตปล่อยเช่าล่าสุด
- ลงประกาศให้เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
โครงการ เรฟเฟอเรนซ์ เกษตร ดิสทริค เป็นโครงการประเภท คอนโด / อพาร์ทเม้นท์ ตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่ ลาดยาว, กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีแผนการก่อสร้างให้แล้วเสร็จใน พ.ค. 2570 โดยมีทั้งหมด 22 ชั้น รวมทั้งสิ้น 26 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการคุณภาพโดย SC ASSET Corporation Public Company Limited และเป็นบริษัทเดียวกันที่ได้พัฒนาโครงการ Reference Ekkamai (เรฟเฟอเรนซ์ เอกมัย), COBE Kaset-Sripatum (โค้บบ์ เกษตร – ศรีปทุม) และ Bangkok Boulevard Ratchaphruek Pinklao (บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า). อีกด้วย
แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ออกแบบเพื่อการใช้ชีวิต
สัมผัสสมดุลที่ลงตัวระหว่างความสะดวกสบายของเมืองและความเงียบสงบของธรรมชาติที่ Reference Kaset District—ที่อยู่อาศัยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบรรยากาศอันร่มรื่นของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และสะท้อนผ่านทุกองค์ประกอบของการออกแบบ
ด้วยแนวคิด "Layers of Nature" ทุกองค์ประกอบได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับความงามของธรรมชาติ เส้นสายโค้งมนของอาคารสะท้อนถึงศิลปะแห่งการกัดเซาะตามธรรมชาติ ขณะที่พื้นที่ว่างระหว่างอาคารถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันให้คล้ายภูมิทัศน์อันเงียบสงบ การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างธรรมชาติและการใช้ชีวิตสมัยใหม่ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความกลมกลืน มอบความสงบใจท่ามกลางความพลุกพล่านของเมือง
ค้นพบวิถีชีวิตใหม่—ที่ซึ่งนวัตกรรมและแรงบันดาลใจมาบรรจบกัน และทุกช่วงเวลาถูกเชื่อมโยงกับธรรมชาติ—ที่ Reference Kaset District
ลองเช็คดูก่อนว่าบ้านของคุณนั้นควรมีราคาอยู๋ที่ประมาณเท่าไหร่ ในทำเลนี้?
Founded in 1995, SC Asset is one of the leading and most reputable real estate developers in Thailand that deliver high quality premium homes to our customers. Initially focused on office building rental, in 2003 SC Asset entered into the premium residential segment and listed on the Thai stock exchange.
Our condominiums and houses are designed to perfection in every detail to ensure utmost comfort, functionality with superb design aspects to enhance your living and lifestyle standards. Our core values are centered around practical design, accessible location, security, intelligent home technology and strong communities.
In 10 years, SC Asset has developed over 85 residential projects, 70% of which are low-rise and 30% high-rise, with a growth rate of 30% per year.
SC Asset’s future vision as a living solutions provider, is firmly dedicated to consistent improvement of our developments for customers lifestyle needs, and we are constantly identifying the best possible elements that make your life better.
SC Asset has long been synonymous with outstanding quality and innovative homes which illustrates our strong reputation and integrity in our developments over the years.
Our philosophy is to deeply understand and empathize our customers’ needs and how we can best nurture and improve our homes’ design and comfort around you. In our developments, we create a community of trust and happiness with our residents to further strengthen family and neighbor relationships, so that you may wake up each day
starting off with a good morning.
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ เรฟเฟอเรนซ์ เกษตร ดิสทริค และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
สำหรับคอนโดมือหนึ่ง
- ก่อนการยื่นกู้ ผู้ซื้อจะต้องผ่อนชำระเป็นเงินดาวน์กับโครงการเป็นระยะเวลาหนึ่งตามตกลง เพราะฉะนั้นผู้ซื้อควรต้องมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งสำหรับผ่อนดาวน์ให้ครบสัญญา
- เมื่อยื่นกู้ ทางธนาคารมักจะอนุมัติให้กู้ได้เต็มจำนวน 100% ของยอดที่เหลือหลังผ่อนดาวน์ เพราะธนาคารจะประเมินว่าท่านมีศักยภาพเพียงพอในการผ่อนชำระ
สำหรับคอนโดมือสอง
- ไม่มีระบบผ่อนดาวน์กับทางผู้ขาย ก่อนการยื่นกู้
- ธนาคารมักจะไม่อนุมัติเต็มจำนวนให้ โดยทั่วไปจะอนุมัติที่ 80 - 90% ของราคาประเมิน หรือ ราคาซื้อขาย (ธนาคารมักจะเลือกราคาที่ต่ำกว่า)
- ผู้ซื้อควรต้องมีเงินสำรอง เพื่อรองรับกับยอดกู้ที่ขาดไป 10-20% เพื่อเป็นเงินจ่ายตรงให้กับผู้ขาย
- ผู้ซื้อควรมีเงินสำรองอีกก้อน เพื่อใช้สำหรับการซ่อมบำรุง
ทั้งนี้ ผู้ซื้อสามารถเลือกเปรียบเทียบการปล่อยกู้ของแต่ละธนาคารได้ก่อนการยื่นกู้ ซึ่งรายละเอียดอาจจะแตกต่างจากที่กล่าวมาข้างต้น ขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยและนโยบายของแต่ละธนาคาร
การซื้อคอนโดนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง หรือกำลังก่อสร้างอยู่ รวมไปถึงหากอยากมั่นใจริงๆ คือซื้อในช่วงที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็สามารถทำได้ แต่อาจจะไม่ได้ห้องที่ต้องการหลงเหลืออยู่แล้ว เพราะโดยส่วนใหญ่ โครงการคอนโดมักจะเริ่มเปิดขายตั้งแต่ช่วงยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างเลย โดยใช้กลยุทธทางการตลาดต่างๆ เพื่อดึงผู้ซื้อเข้ามาเพื่อนำเงินจองทำสัญญาและเงินดาวน์ต่างๆ เข้ามาเพิ่มเป็นเงินทุนในการดำเนินการก่อสร้างของโครงการ ซึ่งนี่ก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของผู้ซื้อ ดังนี้
1. ได้รับโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากกว่าปรกติ เช่น ส่วนลดพิเศษถ้าซื้อช่วง Pre-Sale, ได้รับเฟอร์นิเจอร์ในคอนโดหลายชิ้นฟรี, ฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ, หรือส่วนลดค่าส่วนกลางตามระยะที่กำหนด ฯลฯ
2. สามารถเลือกห้องที่ต้องการได้อย่างเสรี ทั้งแบบห้อง และ ทำเลของห้องเพราะเหลือห้องให้เลือกมากมาย
3. ธนาคารสามารถปล่อยให้กู้ได้เต็มจำนวนของค่าห้อง
4. หากท่านเป็นนักลงทุน การซื้อห้องแบบ Pre-Sale ก็จะช่วยให้ท่านสามารถเพิ่มกำไรในการ ปล่อยเช่า หรือ ขายต่อ ได้ดีมากอีกด้วย
แต่ในข้อดีบางอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ท่านก็ควรพิจารณาถึงข้อเสียไว้ด้วย ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ดังนี้
1. การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเข้าอยู่แบบเร่งด่วน หรือไม่เผื่อระยะเวลาให้กับการก่อสร้าง
2. ไม่ผ่านการขออนุมัติ EIA (หลายโครงการเปิดขายไปแล้ว ก่อสร้างไปแล้ว แต่ยื่นขอไม่ผ่าน)
3. หากเกิดข้อพิพาทใดๆ ในระหว่างการก่อสร้าง หรือ หลังจากสร้างเสร็จ ทำให้เสียเวลาในการฟ้องร้องและเสียสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก
4. มีโอกาสที่วิวต่างๆ หรือบรรยากาศการเข้าพัก ที่เคยคิดไว้ว่าเราจะได้รับเป็นอย่างดีเมื่อตอนก่อนก่อสร้าง จะถูกบดบังในอนาคตเพราะโครงการใหม่ ๆ อาจจะก่อสร้างในภายหลังได้
โครงการ เรฟเฟอเรนซ์ เกษตร ดิสทริค อยู่ห่างจาก 7-Eleven สาขา งามวงศ์วาน 44 ประมาณ 3.3 กม. และ สามารถขับรถไปถึงได้ใน 5 นาที
และยังมีร้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับโครงการ เรฟเฟอเรนซ์ เกษตร ดิสทริค ซึ่ง 3 ร้านที่ใกล้ที่สุด คือ
- คอร์ดี้ไทย (Cordykaset) อยู่ห่างไปเพียง 460 เมตร (เดินแค่ประมาณ 7 นาที)
- KU Avenue อยู่ห่างแค่ 470 เมตรเท่านั้น (ใช้เวลาเดินประมาณ 7 นาที)
- ชุมนุมร้านสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัด อยู่ห่างออกไปประมาณ 320 เมตร (สามารถเดินไปประมาณ 4 นาที)
ร้านอาหารที่ใกล้กับโครงการ เรฟเฟอเรนซ์ เกษตร ดิสทริค นั้นมีให้เลือกมากมาย เราขอเสนอร้านที่ใกล้ที่สุด ดังนี้
- ครัวชมพู อาหารตามสั่ง นั้นอยู่ใกล้กับโครงการเพียง 150 เมตร (ซึ่งคุณสามารถเดินไปที่ร้านได้ ในเวลาประมาณ 2 นาที เท่านั้น)
- โจ๊กบางกอกGold ม.เกษตรบางเขน อยู่ห่างจากโครงการเพียง 410 เมตร (คุณแค่เดินไปประมาณ 6 นาที ก็ถึงแล้ว)
- Max Beef Butchery นั้นอยู่ห่างไปประมาณ 440 เมตร (เดินไปที่ร้านใช้เวลาประมาณ 7 นาที)
Vibhavadi Hospital เป็นสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งห่างจากโครงการไป 3.4 กม. (ซึ่งหากขับรถไป ก็จะใช้เวลาประมาณ 6 นาที)
หากจะมองหาสถานศึกษาหรือแหล่งเรียนรู้ใกล้ๆกับโครงการ นี่คือสถานที่ที่เราแนะนำ
- Emarica Academy - สถาบัน เอมาริก้า อยู่ห่างไปเพียง 200 เมตรเท่านั้น (เดินไปแค่ 3 นาที เท่านั้นเอง)
- วิน คิว รถตู้ ม เกษตร บางเขน ไป กำแพงแสน อยู่ห่างแค่ 330 เมตรเท่านั้น (หากจะเดินไป ก็ใช้เวลาประมาณ 5 นาที)
- Beary Tutor สาขา ม.เกษตรศาสตร์ อยู่ห่างไปประมาณ 470 เมตรเท่านั้นเอง (สามารถเดินเพียง 7 นาที ก็ถึง)
Suvarnabhumi Airport นั้นอยู่ห่างจากโครงการ 49.6 กม. ซึ่งหากขับรถไปจะใช้เวลาโดยประมาณ 46 นาที หรือหากจะเดินทางด้วยแท๊กซี่ ก็ขึ้นอยู่กับการจราจร ณ ช่วงเวลานั้นๆ