- + ประกาศขายบ้าน
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
GBP - £
- ซื้อ
- เช่า
- มีให้เช่าในกระบี่
- ตลาดอสังหาฯ ในกระบี่
- ยูนิตปล่อยเช่าล่าสุด
- ลงประกาศให้เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
กระบี่เป็นเมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “เมืองร้อยเกาะ” เนื่องจากมีหมู่เกาะน้อยใหญ่มากมายที่อยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากทีเดียว โดยหมู่เกาะที่มีชื่อเสียงระดับโลกมีหลายเกาะด้วยกัน ซึ่งแต่ละหมู่เกาะก็จะประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมาย เช่น หมู่เกาะพีพี - เกาะพีพีดอน, เกาะพีพีเล, เกาะยูง, เกาะไม้ไผ่, เกาะบิดะนอก, และเกาะบิดะใน, หมู่เกาะลันตา - เกาะลันตาน้อย, เกาะลันตาใหญ่, เกาะตะละเบ็ง, และเกาะใกล้เคียง, หมู่เกาะปอดะ - เกาะทับ, เกาะหม้อ, เกาะไก่, และหมู่เกาะห้า - มีเกาะเล็ก ๆ 5 เกาะ เป็นต้น
ปกติแล้วการท่องเที่ยวในกระบี่มีความคึกคักเกือบตลอดทั้งปี แต่ก็มีบางช่วงที่มีความคึกคักน้อยมาก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละช่วงที่เรียกว่าช่วง High Season และ Low Season อย่างที่ทราบกันว่าสภาพภูมิอากาศของภาคใต้มีแค่ฤดูฝนและฤดูร้อน ซึ่งช่วงที่ไม่มีมรสุมก็จะเป็น High Season ในช่วงปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการมาท่องเที่ยวทะเลอันดามันในกระบี่มากที่สุด ในขณะเดียวกันหากต้องการท่องเที่ยวในช่วง Low Season (ปลายเดือนพฤษภาคม - ต้นเดือนตุลาคม) ก็ต้องตรวจสอบสภาพอากาศให้ดี เนื่องจากเป็นช่วงที่คาดเดาสภาพอากาศได้ยาก อาจมีคลื่นลมแรงและมรสุมหนักทำให้ฝนตกชุกนั่นเอง
นอกจากหมู่เกาะต่าง ๆ แล้ว กระบี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมายที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาอย่างเนืองแน่น ได้แก่ อ่าวมาหยา - ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเลที่ซึ่งเป็นอ่าวที่เกิดขึ้นจากการพังทลายของหน้าผา ทำให้เกิดเป็นเวิ้งอ่าวรูปพระจันทร์เสี้ยว, อ่าวนาง - เป็นชายหาดในตัวเมืองกระบี่ และได้รับความนิยมอย่างมาก, น้ำตกร้อนคลองท่อม - ธารน้ำร้อนธรรมชาติจากแหล่งน้ำร้อนใต้ดิน, สระมรกต - สระน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยน้ำมีสีเขียวมรกตที่มาจากธารน้ำอุ่นธรรมชาติ, ท่าปอมคลองสองน้ำ - ธารน้ำจืดที่มีความใสสะอาดราวกับกระจก มีสีเขียวอมฟ้าเล็กน้อย, เขาขนาบน้ำ - เขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าตัวเมือง, เกาะเหลาลาดิง หรือเกาะพาราไดซ์ - เกาะสัมปทานรังนกที่โอบล้อมด้วยหน้าผาหินปูนขนาดใหญ่ และคลองหรูด หรือคลองหนองทะเล - คลองน้ำจืดที่ขนาบข้างด้วยป่าพรุ สามารถพายเรือคายัคเพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติได้ เป็นต้น นอกจากนี้กระบี่ยังมีศาสนสถานที่สวยงามหลายแห่งในตัวเมืองกระบี่ที่รอให้ทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมกับสถาปัตยกรรมอันประณีตและงดงาม เช่น วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) - มีพระมหาธาตุเจดีย์สีทองอร่ามตั้งตระหง่านอยู่กลางวัด สถาปัตยกรรมแบบเดียวกับพุทธคยา, วัดแก้วโกรวาราม - เป็นพระอารามหลวงวัดประจำจังหวัดกระบี่ มีอุโบสถสีขาวทั้งหลังตั้งโดดเด่นเป็นสง่า และวัดถ้ำเสือ - เป็นวัดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โอบล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้ มีจุดชมวิวที่ต้องขึ้นบันไดถึง 1,237 ขั้นและมีการประดิษฐานองค์พระพุทธรูปอีกด้วย เป็นต้น
มากระบี่ทั้งทีจะไปเล่นแค่น้ำทะเลกับชมวิวรอบ ๆ อาจจะสนุกไม่เต็มที่ ดังนั้นการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มเติมก็เป็นการเพิ่มความสุขให้กับทริปท่องเที่ยวของคุณได้ ซึ่งกิจกรรมทางทะเลและกิจกรรมสุดตื่นเต้นในกระบี่มีมากมาย ที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ในสถานที่ยอดฮิตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หาดไร่เลย์, อ่าวนาง, หมู่เกาะต่าง ๆ, คลองหรูด, อ่าวท่าเลน และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยกิจกรรมจะมีทั้งผาดโผนตื่นเต้นและเพลิน ๆ สบาย ๆ เช่น ซิปไลน์, ขับรถ ATV, ปีนผา, แหล่งดำน้ำตื้นและแหล่งดำน้ำลึก, การดำน้ำกับฉลาม, วินด์เซิร์ฟ, Paddle Board, พายเรือคายัค และแล่นเรือใบ เป็นต้น
การเดินทางมายังกระบี่มีหลากหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เดินทางด้วย โดยการเดินทางรูปแบบต่าง ๆ มีดังนี้ รถโดยสารปรับอากาศ - สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง, รถไฟ - ไม่เป็นที่นิยมมากนักเนื่องจากกระบี่ไม่มีสถานีรถไฟ หากต้องการเดินทางด้วยช่องนี้ก็ต้องลงที่สถานีทุ่งสง นครศรีธรรมราช หรือสถานีสุราษฎร์ธานีและนั่งรถตู้ต่อมายังกระบี่ และเครื่องบิน - เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด มีสายการบินในประเทศต้นทางจากกรุงเทพมหานครไปยังกระบี่กว่า 20 เที่ยวต่อวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 - 1.30 ชั่วโมง
ปัจจุบันนี้การเดินทางในกระบี่มีรถโดยสารและขนส่งสาธารณะให้บริการอยู่หลายประเภทเลยทีเดียว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ เช่น รถเมล์และรถตู้, รถสองแถว, รถตุ๊กตุ๊ก, รถแท็กซี่ และหากคุณต้องการเดินทางด้วยตนเอง ก็ยังมีบริการเช่ารถยนต์/มอเตอร์ไซค์แบบเหมาทั้งวันอีกด้วย
ถึงแม้ว่ากระบี่จะมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวทางฝั่งทะเลอันดามันและโด่งดังไปไกลระดับโลก แต่ความเป็นจริงแล้วโครงสร้างทางเศรษฐกิจของชาวกระบี่มีรายได้หลักมาจากภาคเกษตรกรรม ซึ่งมีปริมาณการส่งออกเป็นลำดับที่ 2 ของภาคใต้และลำดับที่ 13 ของประเทศ โดยพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของกระบี่คือ ปาล์มน้ำมัน, ยางพารา, ทุเรียน, เงาะ, ลองกอง และมังคุด ตามลำดับ ซึ่งปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันในกระบี่นั้นมีมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตามยังมีอุตสาหกรรมด้านอื่น ๆ ที่มีความสำคัญต่อโครงสร้างเศรษฐกิจในกระบี่เช่นกัน อาทิ ด้านการประมง, ปศุสัตว์, โรงงานอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นต้น โดยรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 4 ของประเทศ รองจากกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และชลบุรีตามลำดับ
ในด้านศิลปะ ประเพณี และวัฒนธรรมในกระบี่ก็ค่อนข้างมีความหลากหลาย ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากจังหวัดข้างเคียงและประชากรที่อพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาในพื้นที่ อาทิ ลิเกป่า, รองแง็งและเพลงตันหยง, ประเพณีลอยเรือชาวเล, ประเพณีสารทเดือนสิบ, เทศกาลถือศีลกินเจ, งานเมาลิดกลาง, เทศกาลกระบี่เบิกฟ้าอันดามัน และเทศกาลลานลันตา เป็นต้น โดยเฉพาะงานเทศกาลกระบี่เบิกฟ้าอันดามันและเทศกาลลานลันตาจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด ภายในงานจะมีการจัดแสดงทางศิลปวัฒนธรรม เทศกาลอาหารทะเล และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว
ในความเป็นจริงแล้วจังหวัดต่าง ๆ ทางภาคใต้มีวัฒนธรรมด้านอาหารค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก ยกเว้นจะเป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและมีผู้คนจากต่างถิ่นอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามา ซึ่งอาจทำให้มีการผสมผสานเป็นวัฒนธรรมร่วมอย่างจังหวัดภูเก็ต แต่อย่างไรก็ตามในกระบี่ก็มีอาหารขึ้นชื่อหลายเมนู หากคุณได้มาท่องเที่ยวกระบี่ก็ไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลองสักครั้ง ได้แก่ หอยชักตีน, อาหารทะเลสดใหม่, กะปิแหลมสัก (เคยนึ่ง), กุ้งเสียบไม้, น้ำพริกผักต้ม และโรตีชาร้อน เป็นต้น
ปกติแล้วหากเป็นจังหวัดที่พื้นที่ติดทะเล ทำเลที่น่าลงทุนอสังหาริมทรัพย์ก็มักจะเป็นทำเลติดชายหาดหรือในละแวกใกล้ชายหาด แต่สำหรับกระบี่ที่เป็นเมืองร้อยเกาะ ชายหาดสวย ๆ ส่วนมากจะอยู่บนเกาะที่ห่างออกไปจากตัวจังหวัด ซึ่งทำเลที่น่าลงทุนด้านอสังหาฯ ในกระบี่ก็จะเป็นโซนตัวเมืองกระบี่ และโซนอ่าวนาง พื้นที่ดังกล่าวนั้นคุณจะพบเห็นธุรกิจที่พักหลายรูปแบบ ทั้งโรงแรม คอนโดมิเนียม วิลล่า หรือแม้แต่โครงการบ้าน อย่างไรก็ตามหากต้องการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในทำเลแหล่งท่องเที่ยวโดยตรงก็ต้องเป็นทำเลหมู่เกาะพีพี ซึ่งมีธุรกิจที่พักหลายแห่งตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงระดับลักซ์ชัวรีอีกด้วย