- + ประกาศขายบ้าน
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
GBP - £
- ซื้อ
- เช่า
- มีให้เช่าในกรุงเทพมหานคร
- ตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพมหานคร
- ยูนิตปล่อยเช่าล่าสุด
- ลงประกาศให้เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น บ้านเดี่ยว สำหรับขาย ขนาด 4 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 210 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ วรารมย์ พรีเมี่ยม วัชรพล-จตุโชติ บนทำเลของ ออเงิน, กรุงเทพมหานคร และสร้างเสร็จแล้วเมื่อ ม.ค. 2557 ซึ่งคุณสามารถซื้อ บ้านเดี่ยว นี้ได้ที่ราคา £148,000 (£707/ตรม.)
ขายบ้านเดี่ยวในหมู่บ้าน วรารมย์ พรีเมี่ยม วัชรพล-จตุโชติ ขนาด 70 ตรว. 4 นอน 3 น้ำ ที่จอดรถ 2 คัน สร้างโครงการโดย Q-HOUSE ระดับ Upper~High Class ที่ตั้งของโครงการตั้งอยู่บน ถนนจตุโชติ ซึ่งเป็นถนนสาย ที่เชื่อมจาก ถนนสุขาภิบาล 5 มายัง ทางคู่ขนานของถนนกาญจนาภิเษก โดยจะอยู่บริเวณโซนตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพ ในเขตสายไหม ใกล้ขึ้นลงทางด่วน ที่ตั้ง: ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ด่านจตุโชติ ถ.จตุโชติ แขวงออเงิน เขตสายไหม จ.กรุงเทพฯ รายละเอียดทรัพย์ :: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ 70.8 ตร.ว. ( พื้นที่ใช้สอย 210 ตร.ม ):: 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ:: 2 ที่จอดรถ:: ถนนโครงการกว้าง 16 เมตร 1. ผ้าม่านและมุงลวดทั้งหลัง 2. กล้องวงจรปิด 3 ตัว 3. เครื่องทำน้ำอุ่น 3 ตัว 4. แอร์ 6 ตัว 4.1 แอร์โครงการ Mitsubishi 3 ตัว- ห้องนอน 3 ห้อง : 3 ตัว 4.2 แอร์ใหม่ระบบ Inverter : Carrier 3 ตัว- ห้องรับแขก 26000 Btu : 2 ตัว- ห้องนอนใหญ่ 18000 Btu : 1 ตัวสิ่งอำนวยความสะดวกสวนสาธารณะ (3 แห่ง กระจายตั้งแต่ด้านหน้าถึงกลางโครงการ) ,คลับเฮ้าส์,สระว่ายนำ (ในร่มและกลางแจ้ง) ,ฟิตเนส ,เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ,กล้องวงจรปิดจุดเด่นและที่ทำเลใกล้เคียง~ มีร้านค้า, ร้านอาหาร, ตลาดสด, ร้านเสริมสวย, ร้านซักรีด, minimart, บ้านตั้งอยู่ร้าน 7-11~ Lotus, บิ๊กซี สุขาภิบาล5~ ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์~ โรงพยาบาลสายไหม~ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ~ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม การเดินทาง ตัวบ้านห่างจากถนนหน้าโครงการเพียง 550 เมตร สามารถเชื่อมต่อถนนจตุโชติ, ถนนสุขาภิบาล5, ถนนหทัยราษฎร์, ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวัชรพล และใกล้ทางด่วน (ทางพิเศษฉลองรัช) ใกล้จุดขึ้น-ลง ด่านจตุโชติ
ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในตัวอาคารสำหรับบ้านเดี่ยวในชื่อของตัวเองได้ แต่จะไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ใช้ปลูกสร้างบ้านเดี่ยวได้
ชาวต่างชาติไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจำเป็นต้องถือครองด้วยวิธีการถือสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี หรือว่าการซื้อที่ดินภายในชื่อของบริษัทจดทะเบียนเท่านั้น
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ วรารมย์ พรีเมี่ยม วัชรพล-จตุโชติ และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
หากอยากกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด ให้ผ่านการพิจารณาจากธนาคารง่ายๆ ควรวางแผนให้กับตัวเองดังนี้
1. พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมดก่อน
- เพราะธนาคารจะนำตัวเลขหนี้สินเหล่านั้นมาเป็นส่วนพิจารณาด้วย คุณจึงควรจัดการหนี้สินเหล่านั้นให้หมดเรียบร้อยก่อน หรือ ทำให้จำนวนงวดผ่อนเหลือน้อยที่สุดก่อน จะเป็นการง่ายต่อการพิจารณาสินเชื่อ
2. พยายามทำตัวเลขเดินบัญชี Statement ให้ดูดี
- สิ่งที่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการลดตัวเลขหนี้สิน คือการมีตัวเลขในบัญชีที่ดูดีไปด้วย หรือที่เรียกกันว่า การเดินรายการบัญชี (เดิน Statement) เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาย้อนหลัง อาจจะดูตัวเลขย้อนหลัง 6-12 เดือน
3. มีเงินดาวน์บ้านเอาไว้สักก้อน
- หากคุณเริ่มมองหาบ้านสักหลังไว้แล้ว คุณควรจะมีเงินดาวน์ไว้ช่วยทำให้ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อส่วนที่เหลือให้ได้สูงขึ้น และ ง่ายขึ้น อาจจะสัก 5-20% ขึ้นอยู่กับโครงการ และ สายอาชีพและแหล่งรายได้ของผู้กู้เองด้วย
ในยุคปัจจุบัน พบว่ามีผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่มากขึ้น เพราะด้วยหลายๆเหตุผลที่ต้องการ ทั้งยังอยากใกล้ชิดกับครอบครัว ใกล้สถานศึกษา โรงพยาบาล และอยากใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ซึ่งการจะให้ได้บ้านในลักษณะนี้ จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น ด้วยการมองไปที่บ้านมือสอง ซึ่งข้อดีของบ้านมือสองมีอะไรบ้าง ลองพิจารณาจาก 5 เหตุผลนี้
1. ราคาที่เข้าถึงได้
- บ้านมือสองมักมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน และยังสามารถต่อรองราคาได้สูงอีกด้วย
2. ได้เห็นปัญหาของบ้าน
- ท่านจะสามารถรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น เช่น ท่อตัน, หลังคารั่ว พื้นหรือกำแพงทรุด ซึ่งนำไปพิจาณาว่าจะซ่อม หรือ มองหลังอื่นแทน
3. วัสดุคุณภาพ
- บ้านมือสองที่มีอายุมากขึ้น มักมีคุณภาพของวัสดุที่ดีกว่าบ้านมือ 1 เช่น เสา-คานที่แข็งแรงมากกว่า เพราะพิสูจน์จากการผ่านมาหลายฝน หลายหนาวมาแล้ว
4. เข้าอยู่ได้ทันที
- บ้านมือสองมักพร้อมเข้าอยู่ทันทีหลังการซื้อ ไม่ต้องรอให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังอาจจะไม่ต้องซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม จากบ้านที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์
5. การสำรวจสภาพแวดล้อม
- ท่านจะมีโอกาสสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องของเพื่อนบ้าน, สิ่งอำนวยความสะดวก, และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของท่าน